Canon EF 24-105 mm f/4L IS USM เลนส์ดีที่น่าใช้

ในบรรดาเลนส์เกรดโปรของผู้ผลิตกล้องและเลนส์ แคนนอนเป็นผู้ผลิตที่สร้างอิมเมจของเลนส์เกรดโปรได้ชัดเจนที่สุด เลนส์อนุกรม L ของแคนนอนนั้นเป็นเลนส์ที่มืออาชีพทั่วโลกยอมรับ ทั้งในเรื่องคุณภาพ การออกแบบโครงสร้างและการใช้งานดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมืออาชีพและระดับจริงจังที่ใช้กล้องแคนนอนจึงเลือกใช้แต่เลนส์แคนนอนอนุกรม Lเท่านั้นและไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเลนส์ L จึงเป็นเลนส์ในฝันของมือสมัครเล่นที่มีงบน้อย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เลนส์เกรดธรรมดาของแคนนอน หรือเลนส์โปรของผู้ผลิตเลนส์อิสระ
สำหรับเลนส์ซูมช่วง WIDE-TELE แล้ว แคนนอนมีเลนส์ช่วงนี้ไม่กี่รุ่น นับตั้งแต่ผลิตกล้องออโตโฟกัสตัวแรกออกมาเมื่อ 19 ปี ก่อน คือ Canon EF 28-80 มม. f/2.8-4 L เลนส์ซูมไวด์-เทเลเกรดโปรตัวแรก ความสว่างค่อนข้างสูง คุณภาพดี แต่ใช้มอเตอร์ USM เวอร์ชัน แรกที่ต้องขับชุดโฟกัสด้วยไฟฟ้าตลอดเวลา จึงใช้งานไม่เวิร์คนัก ถัดมาเป็นเลนส์ซูมยอดนิยมตลอดหนึ่งทศวรรษเต็ม คือ Canon EF 28-70 มม. f/2.8 L USM เลนส์ซูมที่ให้คุณภาพใน ระดับเกือบเทียบเท่าเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียว ความสว่างสูงระดับ f/2.8 ตลอดช่วง มอเตอร์ USM ใหม่ที่ปรับโฟกัส ใกล้สุดให้เข้าใกล้ได้มากกว่าเดิม เลนส์รุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงและเป็น 1 ใน 3 ของเลนส์ชุดโปรที่มืออาชีพ ใช้กัน (17-35, 28-70 และ 70-200 f/2.8)
ต่อมาแคนนอนพัฒนาเลนส์ซูมไวด์-เทเลใหม่ โดยขยายทางยาวโฟกัสช่วงไวด์จาก 28 มม. เป็น 24 มม. ช่วงซูมท้ายยังเป็น 70 มม. เท่าเดิม 4 มม. ที่เพิ่มขึ้นมาอาจดูว่าน้อย แต่มืออาชีพจะทราบดีว่าความกว้างของมุมรับภาพที่ได้จากเลนส์ 24 มม. มากกว่าเลนส์ 28 มม. ถึง 10 องศา ซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเมื่อถ่ายภาพสถาปัตยกรรม ภาพทิวทัศน์หรือภาพภายในสถานที่ แคนนอน EF 24-70 มม. f/2.8 L USM จึง เป็นเลนส์ที่มืออาชีพสนใจกันมากรุ่นหนึ่ง แม้ช่วงซูมต้นจะทับกับเลนส์ซูมมุมกว้าง ช่วง 16-35 มม. หรือ 17-35 มม. ก็ตาม

แต่ยังมีนักถ่ายภาพอีกกลุ่มหนึ่งที่อยาก ได้เลนส์ซูมที่มีช่วงกว้างกว่า 24-70 มม. เพื่อให้ช่วงซูมท้ายถ่ายภาพพอร์เทรตได้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของการบีบฉากหลัง สัดส่วนภาพ และความบิดเบี้ยวที่น้อยกว่าเมื่อถ่ายภาพบุคคลในระยะใกล้มากๆ นักถ่ายภาพกลุ่มนี้ต้องการเลนส์ซูมประเภทตัวเดียวใช้ถ่ายภาพได้ดีทั้งภาพ หมู่ ภาพครึ่งตัว และเฉพาะใบหน้าโดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนเลนส์บ่อยๆ
แคนนอนตอบสนองความต้องการของนักถ่าย ภาพกลุ่มนี้ด้วยเลนส์ซูมที่ช่วงซูมเร้าใจคือ EF 24-105 มม. f/4 L USM IS หากดูที่ขนาดรูรับ แสงกว้างสุดของเลนส์อาจรู้สึกว่า ความสว่างน้อยไปหน่อย น่าจะทำได้ที่ f/2.8 เหมือน EF 24-70 มม.

ยากครับ...หากต้องการช่วงซูมกว้างก็ต้อง แลกด้วยความสว่างของเลนส์ เพราะถ้าจะออกแบบให้เลนส์ 24-105 มม. มีขนาดรู้รับแสงกว้างสุด f/2.8 ตลอด ช่วง ขนาดของเลนส์ใหญ่โตมาก น้ำหนักเกิน 1 กิโลกรัม และราคาขายไม่น่าจะต่ำกว่าแปดหมื่นบาท แต่ถ้าจะเอาเล็กด้วย ดีด้วย ไม่แพงมากนักด้วยล่ะก็ นี่คือจุดที่ลงตัวมากที่สุดแล้ว

เลนส์รุ่นนี้ แม้จะมีขนาดรูรับแสงกว้างสุด f/4 ตลอดช่วง แต่ก็ใส่ระบบลดการสั่นไหวของภาพ (image Stabilizer) ให้มาด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นเลนส์ที่ใช้งานสะดวกคล่องตัวในทุกสภาพแสง
FIRST LOOK แคน นอน EF 24-105 มม. มีขนาดใหญ่และหนัก ขนาดของกระบอกเลนส์ใกล้เคียงกับ EF 24-70 มม. การออกแบบภายนอกทำได้ลงตัว โดยเฉพาะเมมื่อไม่ได้ซูมออกมันจะดูสวยถูกใจผมมากเป็นพิเศษ แต่เมื่อซูมออกความสวยจะลดลงไปบ้าง เพราะระบบซูมไม่ได้เป็นแบบ Internal Zoom เมื่อซูมออก กระบอกจะยื่นออกค่อนข้างมาก

ระบบซูมเป็นแบบ 2 วง แหวน วงแหวนซูมวางอยู่ค่อนไปทางซ้ายของกระบอกเลนส์ มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับขนาดเลนส์ แต่ด้วยการวางตำแหน่งที่ดีทำให้การปรับซูมทำได้สะดวก น้ำหนักในการซูมค่อนข้างหนืด เพราะกระบอกเลนส์หนัก แต่ก็ปรับซูมได้ราบเรียบไม่สะดุด การปรับซูมจาก 24 มม. ไป 105 มม. เป็นแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา มีรอบหมุนประมาณ 80 องศา

วงแหวนโฟกัสมีขนาดใหญ่กว่าวงแหวนซูมเล็ก น้อย วางค่อนข้างไปทางด้านหน้า อยู่ในตำแหน่งที่ปรับได้สะดวก ขนาดของวงแหวนกำลังดีครับ ไม่ใหญ่เกินไม่เล็กเกิน การปรับโฟกัสจากอินฟินิตี้ไปใกล้สุดเป็นหมุนทวนเข็มนาฬิกา ระยะโฟกัสใกล้สุดทำได้ 0.45 วงแหวนโฟกัสของเลนส์รุ่นนี้สามารถ ปรับโฟกัสแลลแมนนวลได้ตลอดเวลา น้ำหนักในการปรับหมุนกำลังดี ปรับได้ราบเรียบระบบโฟกัสเป็นแบบ Internal Focus (IF) หน้าเลนส์จะไม่หมุนตามการโฟกัสและไม่ยืดออก ทำให้ใช้ฟิลเตอร์ PL ได้สะดวก การปรับเปลี่ยนโหมดโฟกัส AF/M ทำได้โดยเลื่อนสวิทช์ปรับโหมด AF ที่ส่วน กลางของกระบอกเลนส์

ระบบ IS ของเลนส์รุ่นนี้ทำ งานแบบออฟติคัล โดยใช้ไจโลเซนเซอร์ตรวจสอบอาการสั่นไหวแล้วสั่งการให้ชุดเลนส์ IS ขยับเลื่อนในทิศทางตรงข้ามกับการสั่นไหว เพื่อให้ภาพที่ไปตกระทบ CCD คมชัด ระบบนี้จะลดการสั่นไหวของภาพได้ 3 สตอป เมื่อเทียบกับกฎ 1/ทางยาว โฟกัส
โครงสร้างระบบออฟติค ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 18 ชิ้น จัดเป็น 13 กลุ่ม มีการใช้เลนส์ SUPER UD (Ultra Low Dispersion) เพื่อลดความคลาดสีและใช้ชิ้นเลนส์ แอสเฟอริคัลเพื่อลดความคลาดทรงกลม ทำให้ได้ภาพคมชัดคอนทราสต์สูง

ระบบการโค้ทผิวเลนส์เป็นแบบ Super Spectra Coatings เพื่อลดแสงฟุ้งและภาพหลอนให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ได้ผลดีทั้งกับการใช้กับกล้องระบบฟิล์มและกล้องดิจิตอล (สำหรับเลนส์รุ่นี้ ในล็อตแรกที่ผลิตออกมาจะมีปัญหาในเรื่องแสงฟุ้งเป็นลำ เมื่อใช้รูรับแสงกว้างที่ช่วงไวด์ โดยเลนส์ที่มีรหัสต่ำกว่า UT 1000 จะมีปัญหานี้ ต้องส่งให้ศูนย์บริการทำการแก้ไข)

โครงสร้างของเลนส์รุ่นนี้อยู่ในระดับดีมาก โครงสร้างภายนอกใช้ทั้งโลหะและพลาสติกประเภทโพลีคาร์บอเนต ด้วยการผลิตและการออกแบบระบบกลไกที่ดี ทำให้มันเป็นเลนส์ที่แข็งแรงและมีระบบกลไกที่ดี ทำให้มันเป็นเลนส์ที่แข็งแรงและมีระบบกลไกที่ดี งานการผลิตอยู่ในระดับเดียวกับเลนส์ L อย่าง 28-70 มม. f/2.8 L และ 24-70 มม. f/2.8 L

เช่นเดียวกับเลนส์ L ทั้ง หมด เลนส์รุ่นนี้ออกแบบให้สามารถใช้ได้กับกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอล โดยเมื่อใช้กับกล้องดิจิตอลระดับโปรรุ่น EOS 1DS ML II N หรือกล้องกึ่งโปรรุ่น EOS 5D ที่ใช้เซน เซอร์แบบฟลูเฟรม จะได้ทางยาวโฟกัสเต็มๆ คือ 24-125 มม. ซึ่งนับว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจากเลนส์รุ่นนี้ ส่วนกล้องโปรที่ใช้เซนเซอร์ที่มีตัวคูณ 1.3X อย่าง รุ่น EOS 1DS ML II N นั้น ทางยาวโฟกัสจะเปลี่ยนเป็น 31.2-136.5 มม. ส่วนกล้องดิจิตอล SLR รุ่นเล็กหรือรุ่น กลางๆ อย่าง EOS 350D และ EOS 30D จะได้ทางยาวโฟกัสเป็น 38.4-168 มม.

แปลนเมาท์ของเลนส์รุ่นนี้ ออกแบบให้ป้องกันน้ำโดยใช้ซีลยางยื่นออกมาจากขอบของแปลนเมาท์ การซีลที่จุดต่างๆ ดีเพียงพอที่จะให้งานในขณะมีละอองฝนได้
ผลการใช้งาน สิ่งที่น่าสนใจของเลนส์รุ่นนี้คือช่วงซุม และผู้ที่จะสนใจเลนส์รุ่นนี้ก็คือ ผู้ที่ใช้กล้องฟิล์มของแคนนอนอยู่เพราะทางยาวโฟกัส 24-105 มม. กับ f/4 คงที่ตลอดช่วงซูมนั้น หาไม่ได้จากผู้ผลิตรายใด ขนาดรูรับแสง f/4 นับว่า สว่างเพียงพอสำหรับเลนส์ช่วงนี้ เพราะโอกาสที่จะเปิดรู้รับแสงกว้างกว่า f/4 มีไม่มากนักสำหรับเลนส์ช่วงมุมกว้าง

ผลได้รับเลนส์รุ่นนี้มา พร้อมกับกล้อง CANON EOS 1DS ML II N กล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีตัวคูณทางยาวโฟกัส 1.3X ทางยาวโฟกัสที่เปลี่ยนเป็น 31.2-136.5 มม. นั้น ยังนับว่าใช้ประโยชน์ได้ดีพอควร หากเป็นกล้องที่ใช้ใช้เซนเซอร์ขนาดฟูลเฟรมน่าจะใช้งานได้สนุกกว่านี้ กับ CANON EOS 1DS ML II N ผมบันทึกภาพทั้งหมดด้วยไฟล์ RAW+JPEG (L) ไฟล์ที่นำมาใช้งานจะเป็นไฟล์ RAW ที่ PROCESS โดยซอฟท์แวร์ PHOTOSHOP CS2

เลนส์รุ่นนี้แม้จะมีขนาด ใหญ่ แต่เมือนำไปสวมกับอดี้รุ่นนี้ ขนาดของเลนส์ดูเล็กไปถนัดตาดูลงตัวและสมดุลมากเมื่อใช้กับ CANON EOS 1DS ML II N การควบคุมวงแหวนซูมทำได้ดี วงแหวนมีขนาดเล็ก แต่ปรับได้สะดวก วงแหวนซูมค่อนข้างหนืด แต่ก็ปรับได้ราบเรียนดี วงแปนวโฟกัสปรับได้นุ่มนวล
ระบบโฟกัสของเลนส์รุ่นนี้ ทำงานได้รวดเร็วและเงียบตามมาตรฐานของเลนส์ L การ ตอบสนองของระบบโฟกัสทำได้ดี การล็อกทำได้แน่นอน ไม่มีอาการยึกยัก และด้วยการใช้ระบบกลไกที่ดี ทำให้ภาพในช่องมองไม่กระตุกจากการสั่นของกระบอกเลนส์ กับบอดี้ CANON EOS 1DS ML II N ภาพที่ได้ไม่มีปัญหาในเรื่องโฟกัส ภาพส่วนใหญ่โฟกัสถูกต้อง มีเพียงบางภาพที่ใช้ระบบพื้นที่กว้างแล้วโฟกัสไม่ตรงจุดที่ต้องการ แต่นับว่าน้อย
ความคมชัดของเลนส์รุ่นนี้ อยู่ในระดับดีมาก เมื่อแปลง RAW FILE เป็นไฟล์ TIFF แล้วดูผลจากจอคอมพิวเตอร์ พบว่าภาพที่ได้มีรายละเอียดดีมาก ที่อัตราขยาย 50% ภาพ คมกริบทั้งกลางภาพและขอบภาพ เมื่อขยายขึ้นมาดูผลที่ 100% ความคมชัดยังอยู่ในระดับดี ภาพที่ได้แสดงรายละเอียดของวัตถุได้น่าพอใจ ทำได้แทบไม่แตกต่างจากเลนส์ทางยาวโฟกัสเดียว ที่ช่วงซูม 24 มม. ความคมชัดดีมากที่กลางภาพ และพอใช้ได้ที่ขอบภาพเมื่อเปิดรูรับแสงกว้างสุด เมื่อลองใช้ที่ f/8 พบว่าความคมชัดที่ได้น่าพอใจทั้งกลางภาพแลของภาพ ที่ช่วง 50 มม. ความคมชัดเมื่อเปิดรูรับแสดงกว้างสุดยังทำได้ดีมากที่กลางภาพ ขอบภาพก็อยู่ในระดับดี หรี่รูรับแสงลง 2 สตอปจะเห็น ความคมชัดดีขึ้นอีกเล็กน้อย ที่ช่วง 105 มม. ความคมชัดลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับดีมากที่กลางภาพและดีที่ขอบภาพ ให้ผลเป็นรองช่วงอื่นเล็กน้อย

เลนส์รุ่นนี้ให้ภาพใส เคลียร์ และให้สีสดใสความอิ่มตัวของสีดี ความในของภาพทำได้ดีกว่า เลนส์ราคาประหยัดอย่าง 18-55 มม. ชัดเจนกับภาพบุคคลการถ่ายทอดสีผิวทำได้ดี การไล่น้ำหนักสีดี คอนทราสต์อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่วนในเรื่องกาการสีเหลื่อมที่ขอบภาพนั้นก็ยังมีอยู่บ้าง โดยจะเห็นสีม่วงเหลื่อมอยู่ข้างในบริเวณรอยต่อของส่วนสว่างกับส่วนมืด

ความสม่ำเสมอของแสงบน ภาพอยู่ในระดับดี กับบอดี้ CANON EOS 1DS ML II N ที่มีตัวคูณ 1.3X พบว่าภาพที่ได้ในเคลียร์ จะเห็นอาการขอบภาพมืดเพียงเล็กน้อยที่ช่วง 24 มม. เมื่อเปิดรู้รับแสงกว้างสุดแต่จไม่ปรากฏที่ f/5.6 ที่ช่วงซูมอื่นภาพใสเคลียร์ (ผมยังไม่ได้ลองกับกล้องฟิล์มครับ จึงไม่ด่วนสระปในเรื่องนี้ว่าจะให้ผลดีขนาดไหน)
ดิสทอร์ชันของเลนส์รุ่น นี้ ปรากฏชัดเจนที่ช่วงซูม 24 มม. ภาพจะโป่งกลางแบบสังเกตได้ เมื่อถ่ายในระยะใกล้เส้นตรงบริเวณขอบภาพจะโค้งออก (Barrel) จากภาพ มีการผิดสัดส่วนของรูปทรงวัตถุบริวเวณขอบภาพบ้าง แต่ก็ไม่มากจนเป็นผลเสียต่อภาพ เมื่อซูมออกไปที่ช่วง 28 มม. ดิสทอร์ชันจะลดลงและเหลือน้อยมากที่ช่วง 35 มม. ส่วนที่ช่วง 50-105 มม. จะเกิดดิสทอร์ชันแบบโค้งเข้าแบบสังเกตได้ประสิทธภาพในด้านนี้ทำได้ปานกลาง
ในส่วนของการใช้งาน นี่คือเลนส์ที่ใช้งานสนุก น่าประทับใจ ช่วงซูมใช้ประโยชน์ได้มาก ระบบ IS เยี่ยม ในสภาพแสงน้อยมันช่วยให้สามารถถือกล้องได้แม้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 1/15-1/30 วินาที โดยภาพที่ได้แทบทั้งหมดคมชัด เป็นสิ่งที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับ EF 24-70 มม. f/2.8 ทดแทนในเรื่องของความไวแสงของ เลนส์ที่น้อยกว่า 1 สตอปได้ระบบ IS ของเลนส์รุ่นนี้ ทำให้เป็นเลนส์อเนกประสงค์ที่ใช้งานเวิร์ค สิ่งที่ผมต้องการมากกว่าที่เลนส์มีให้อย่างหนึ่งก็คือ ระยะโฟกัสใกล้สุด หากทำได้ที่ 0.35 เมตร เลนส์รุ่นนี้น่าจะใช้งานสนุกขึ้น แต่เท่าที่เป็นอยู่ก็ต้องนับว่าน่าพอใจแล้วครับ
สำหรับประสิทธิภาพในการ ควบคุมแฟลร์ที่หลายคนห่วง เพราะเลนส์ล็อตแรกค่อนข้างมีปัญหา แต่กับเลนส์ที่เราหยิบยืมมา (รหัส UT 1003) ไม่มีปัญหาเรื่อง นี้ประสิทธิภาพในการควบคุมแผลร์อยู่ในระดับแฟลร์อยู่ในระดับมาตรฐานของเลนส์ โปร แต่ก็ยังปรากฏแสงฟุ้งอยู่บ้างเมื่อถ่ายย้อนแสง และมีภาพหลอนบ้าง แต่แสงฟุ้งที่พุ่งเป็นลำที่ช่วงไวด์นั้นไม่มีแล้ว

ความเห็น : เปรียบเทียบกับ EF 24-70 L มม. f/2.8 แล้ว คุณภาพใกล้เคียงกันมาก ราคาขายต่ำกว่า EF 24-70 มม. อยู่ตรงที่ลักษณะการใช้งานของคุณมากกว่าหากต้องการเลนส์ ALL IN ONE สำหรับภาพงานพิธี EF 24-105 มม. น่าสนใจกว่าครับ ช่วง 105 มม. ใช้ถ่ายภาพพอร์เทรตได้ดีกว่า สัดส่วนภาพที่ช่วงซูมท้ายดีกว่า ระบบ IS ช่วยให้ใช้งานในสภาพแสงน้อยได้ดี ราคาสูงแต่น่าใช้ครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากเลนส์ Canon EF 24-105 mm f/4L IS USM

ขอขอบคุณบทความ จากนิตยสาร Photo INFO ปีที่ 2 ฉบับที่ 16 : กรกฏาคม 2549

ความคิดเห็น

  1. เป็นเลนส์ที่มีคุณภาพอีกตัวหนึ่งครัฟ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 ตุลาคม 2556 เวลา 00:03

    2549 หรือเปล่าคับ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น