แคนนอน ผู้นำธุรกิจกล้องดิจิตอลระดับโลก เผยโฉมกล้อง DSLR ในตระกูล EOS
รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย “แคนนอน EOS 6D”
อุปกรณ์ในฝันสำหรับนักเดินทางผู้ที่มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ในการ
ถ่ายภาพ สะดวกพกพาไปได้ทุกที่เพราะเป็นกล้อง DSLR
ที่มีเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ฉลาดล้ำกว่าที่เคย
ภายในกล้องมี Built-in Wi-Fi รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งในระบบ
iOS และ Android โดยสามารถควบคุม ปรับตั้งค่ากล้อง
และสั่งถ่ายภาพผ่านทางแอพลิเคชั่นในมือถือ ได้แบบเรียลไทม์
และยังให้คุณสามารถเปิดดูภาพในกล้องและอัพโหลดไปยังโซเชี่ยล
เน็ตเวิร์คต่างๆ จากมือถือทันที ทุกที่ทุกเวลา
และยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางให้กับเพื่อนๆ
ที่สนใจเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยวของท่านด้วย Built-in GPS
ระบุพิกัดของภาพถ่ายตลอดการเดินทางให้โดยอัตโนมัติ
อีกหนึ่งนวัตกรรมด้านอิมเมจจิ้งที่แคนนอนสร้างสรรค์มาเพื่อเอาใจคนรักกล้อง
และสาวกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากฟังก์ชั่นการปรับตั้งค่าต่างๆ ที่ตอบสนองความต้องการระดับมืออาชีพ
อย่าง ระบบโฟกัสอัตโนมัติ 11 จุด (11-point AF System)
ที่ให้คุณเลือกจุดโฟกัสได้อย่างแม่นยำตามที่ต้องการ
การบันทึกภาพเคลื่อนไหวระดับฟูลไฮเดฟฟินิชั่น รองรับการบันทึก Time Code
และยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ ในตัวกล้อง อาทิ ภาพถ่ายแบบไฮท์ไดนามิคเรนจ์ (High
Dynamic Range) หรือการถ่ายภาพซ้อนแบบ Multiple Exposure
ที่จะช่วยสร้างสรรค์ภาพถ่ายของคุณให้สวยงามมีสไตล์ได้หลากหลายไม่รู้จบอีก
ด้วย คุณภาพของภาพที่เหนือกว่า
กล้องดิจิตอลแคนนอน EOS 6D มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาดฟูลเฟรม ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ซึ่งเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมนี้มีขนาดเท่ากับฟิล์ม 35 มิลลิเมตร และมีขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์แบบ APS-C ในกล้อง DSLR ส่วนใหญ่ และด้วยเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรมนี้เอง จึงทำให้สามารถเก็บบันทึกรายละเอียดของภาพถ่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดย เฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง 35 มิลลิเมตร เซ็นเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรมนี้ยังสามารถเก็บรายละเอียดของแสงต่อพิกเซลได้มากกว่ากล้องที่มี เซ็นเซอร์เล็กกว่า จึงให้ค่าไดนามิกเรนจ์ที่กว้างกว่า และโดดเด่นเรื่องคุณภาพของภาพถ่ายที่มีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ แม้จะใช้ความไวแสงสูงก็ตาม กล้องแคนนอน EOS 6D ยังใช้โครงกสร้างโฟโต้ไดโอด (Photodiode) แบบใหม่ ร่วมกับการจัดวางไมโครเลนส์ที่อยู่หน้าเซ็นเซอร์ให้มีช่องว่างน้อยที่สุด (Gapless Microlens Array) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับภาพของเซ็นเซอร์ให้สูงขึ้น ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพมากขึ้น มีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ ค่าความไวแสงกว้างถึง ISO 100 – 25600 (ขยายเพิ่มได้ถึง L:50, H1:51200, H2:102400) เทียบเท่ากับกล้อง EOS 5D Mark III เพื่อให้ได้ภาพถ่ายคมชัดแม้ในที่แสงน้อยมาก หรือสถานที่ที่แสงไม่อำนวยก็ตาม
เพื่อให้กล้องตัวนี้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แคนนอนจึงออกแบบให้เซ็นเซอร์ฟูลเฟรมทำงานคู่กับ DIGIC 5+ ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน ที่ทำงานเร็วกว่า DIGIC 5 ถึง 3 เท่า เกิดเป็นความลงตัวของภาพถ่ายที่คมชัดอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะถ่ายภาพโดยใช้ความไวแสงสูง ก็ยังคงให้ภาพถ่าย ที่มีสัญญาณรบกวน (Noise) ต่ำ ที่ความละเอียดถึง 20.2 ล้านพิกเซล นั่นก็เพราะระบบ DIGIC 5+ ถูกพัฒนาให้การประมวลผลได้เร็วขึ้น จึงสามารถทำให้ชดเชยค่าแสงได้ถึง 2 สต็อป ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยชิปประมวลผลนี้ ยังทำให้สามารถบันทึกภาพต่อเนื่องได้เร็วถึง 4.5 ภาพต่อวินาที
ชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะ DIGIC 5+ นี้ ยังช่วยให้นักถ่ายภาพก้าวข้ามขีดจำกัดของการถ่ายรูปแบบเดิมๆ ด้วยฟังก์ชั่นที่แคนนอนได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยในสถานการณ์ที่ยากต่อ การถ่ายภาพ อาทิ Handheld Night Scene ที่ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกภาพในเวลากลางคืนได้อย่างสวยงาม โดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องอีกต่อไป โดยกล้องจะบันทึกภาพ 4 ภาพติดต่อกันด้วยความเร็วสูง เพื่อนำมาประมวลผล และรวมให้เป็นภาพถ่ายที่สวยงามเฟอร์เฟ็คที่สุดเพียงภาพเดียว หรือโหมด HDR Backlight Control ซึ่งออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพที่มีความเปรียบต่างสูง (High-Contrast) อาทิ ภาพที่มีองค์ประกอบของส่วนที่เป็นเงามืด และส่วนที่เป็นแสงสว่างจ้า ในฉากเดียว กล้องจะทำการถ่ายภาพ 3 ภาพติดต่อกันด้วยค่าแสง 3 แบบ มืด-กลาง-สว่าง จากนั้นก็นำมารวมกันเป็นภาพเดียวที่มีรายละเอียดของภาพและแสงครบถ้วนดุจตา เห็น นอกจากนี้ยังมีโหมด Multiple Exposure ที่สามารถถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 9 ภาพ แล้วนำมารวมเป็นภาพเดียวกัน สร้างสีสัน ความสนุกสนานและความโดดเด่นให้กับภาพถ่ายของคุณได้ไม่รู้จบ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการถ่ายภาพเชิงแอ็คชั่นให้สวยงามแปลกตา เช่น ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงวงสวิงของนักกอล์ฟตั้งแต่เริ่มยกไม้ขึ้นตี เป็นต้น
กล้องแคนนอน EOS 6D ยังสามารถบันทึกไฟล์ในรูปแบบ RAW ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ที่นิยมใช้กันของบรรดาช่างภาพมืออาชีพ เพราะสามารถปรับแต่งภาพได้ง่าย และให้รายละเอียดของภาพที่ครบถ้วน นอกจากนี้ ในกล้องยังมีฟังก์ชั่น In-Camera RAW Process ที่ใช้สำหรับการแปลงไฟล์จาก RAW มาเป็นไฟล์ JPEGพร้อมปรับแต่งค่าสี ความสว่าง คอนทราสต์ และความคมชัด และฟังก์ชั่นปรับขนาดไฟล์รูปภาพ (Resize) ให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับการโพสต์บนบล็อก และเฟรมภาพดิจิตอลสำเร็จรูปต่างๆ ทั้งสะดวกและสบายในการใช้งานในกล้องเพียงตัวเดียว พร้อมด้วยฟังก์ชั่น WiFi และ GPS ในตัวกล้องอำนวยความสะดวกให้กับนักถ่ายภาพทุกคนได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย WiFi ตามมาตรฐาน IEEE 802.11 b/g/n ด้วยความเร็วสูง สามารถถ่ายโอนข้อมูลรูปภาพจากกล้องไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนได้ ด้วยความเร็วที่ 150 mbps และสั่งพิมพ์ภาพถ่ายด้วยเครื่องพิมพ์แบบไร้สายที่เปิดใช้ฟังก์ชั่น PictBridge (DPS over IP) ได้โดยตรง
และการเปิดตัวของกล้องแคนนอน EOS 6D นี้ก็ยังเป็นการเปิดตัวอีกสองนวัตกรรมด้านอิมเมจจิ้งของแคนนอนอีกเช่นกัน ได้แก่ แอพพลิเคชั่น EOS Remote ที่รองรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งจะส่งให้ความสามารถในการเชื่อมต่อ WiFi ของกล้อง EOS 6D นี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการควบคุมกล้องได้จากอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ iOS และ Android โดยจอของสมาร์ตโฟนจะแสดงภาพถ่ายแบบ Live View จากกล้องในทันที และด้วยความคล่องตัวนี้เอง จึงทำให้นักถ่ายภาพสามารถปรับเปลี่ยน ขยับตำแหน่งของวัตถุที่ต้องการถ่ายได้โดยไม่ต้องคอยเดินกลับไปเช็คดูที่หน้า จอของกล้องว่าภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ยิ่งกว่านั้น ด้วยแอพพลิเคชั่นนี้ ยังสามารถเปลี่ยนโหมดการถ่ายภาพ เลือกจุดโฟกัส และกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้จากสมาร์ทโฟน หลังจากนั้นก็สามารถดาวน์โหลดภาพที่ได้มาเพื่อเลือกดู เรียงลำดับ และจัดการภาพต่างๆ ที่อยู่ในกล้องได้ทันที
อีกหนึ่งนวัตกรรมคือ ฟังก์ชั่น GPS ที่อยู่ในตัวกล้อง ซึ่งจะบันทึกค่า GPS log ไว้ในภาพถ่าย ได้อย่างเที่ยงตรง แม่นยำ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งสถานที่ของแต่ละภาพในกล้องได้ตลอดการเดินทาง พร้อมกับยังมีการบันทึกวันและเวลา ทำให้สามารถคำนวณระยะเวลาการเดินทางของทริปการถ่ายรูปนั้น หรือเรียกดูเส้นทาง GPS ได้จากซอฟต์แวร์ Map Utility ที่ให้มาในซีดีพร้อมกับกล้องได้อีกด้วย
แม่นยำกว่าใคร
กล้องดิจิตอลแคนนอน EOS 6D มีระบบออโต้โฟกัส 11 จุด (EOS 5D Mark II มี 9 จุด) จึงทำให้สามารถโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แม้จะบันทึกภาพในสภาวะที่มีแสงน้อยมากถึง EV-3 (เป็นรุ่นแรกของกล้องในตระกูล EOS ที่สามารถทำได้) ให้ภาพที่งดงามคมชัดมากกว่าเดิม ในขณะเดียวกันระบบวัดแสงของกล้องก็ยังสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ ด้วยระบบวัดแสง iFCL dual-layer แบ่งละเอียดถึง 63 โซน โดยหลังจากกล้องทำการโฟกัสตำแหน่งของวัตถุได้อย่างรวดเร็วแล้ว ระบบวัดแสงนี้จะทำงานต่อเนื่องทันที เพื่อให้เกิดความแม่นยำที่สุดในการปรับตั้งค่าแสงเพื่อถ่ายภาพวัตถุดังกล่าว
ด้วยการทำงานของระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) และระบบวัดแสงอัตโนมัติ (AE) ที่รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นนี้ จึงทำให้นักถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพได้อย่างที่ใจต้องการ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะแสงแบบไหนก็มั่นใจได้ว่าภาพที่ออกมาจะสวยงามเสมอ
บันทึกภาพยนตร์ในระบบ Full HD คุณภาพที่มืออาชีพไว้วางใจ
ด้วยความสามารถของชิปประมวลผลภาพอัจฉริยะ DIGIC 5+ จึงทำให้กล้องดิจิตอลแคนนอน EOS 6D สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยความละเอียดระดับ Full HD (1920 x 1080) ที่ 24 fps และสามารถเลือกคุณภาพการบีบอัดไฟล์ได้ทั้งแบบ ALL-I ซึ่งเหมาะสำหรับการนำไปตัดต่อ และแบบ IPB ที่มีการบีบอัดไฟล์ภาพที่มากกว่าสำหรับงานที่ไม่ต้องการไฟล์ภาพขนาดใหญ่มาก สำหรับคุณภาพของภาพเคลื่อนไหวก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยลดการเกิด Moiré และ Color Fringing และเพิ่มความสามารถในการบันทึกภาพต่อเนื่องได้ยาวนานติดต่อกันถึง 30 นาที จนกว่าความจุของเมมโมรี่การ์ดจะเต็มง่าย สำหรับนักถ่ายภาพมือใหม่ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้อง EOS 6D ด้วยฟังก์ชั่น VDO Snapshot ที่บันทึกภาพเคลื่อนไหวเป็นไฟล์สั้นๆ 2 วินาที 4 วินาที หรือ 8 วินาที มาต่อกัน โดยสามารถจัดเรียงลำดับก่อนหลัง ตัดต่อไฟล์ พร้อมใส่เสียงดนตรี (Music Background) เพื่อเล่นย้อนหลังได้ทันทีจากในตัวกล้อง
น้ำหนักเบา แต่ยังแข็งแกร่งด้วยวัสดุชั้นเลิศ
โดยทั่วไปแล้ว กล้องดิจิตอลฟูลเฟรมมักจะมาพร้อมกับตัวเครื่องที่หนัก และราคาที่สูง แต่แคนนอนสามารถออกแบบกล้อง EOS 6D ให้มีขนาดที่และน้ำหนักใกล้เคียงกับกล้อง EOS 60D ได้ (ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาด APS-C) ซึ่งเบากว่ากล้องฟูลเฟรม EOS 5D Mark III ถึง 180 กรัม และด้วยขนาดของกล้องที่เล็กลงและน้ำหนักที่เบาขึ้นของกล้องตัวนี้ก็ทำให้ สะดวกในการพกพาไปด้วยทุกที่
ตัวกล้องแคนนอน EOS 6D นั้นมีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมซีลกันละอองน้ำและฝุ่น ได้ดีเทียบเท่ากับกล้อง DSLR ตัวท็อปอย่างกล้องแคนนอน EOS 1N เลยทีเดียว นอกจากนี้ ชัตเตอร์ยังสามารถใช้งานได้สูงถึง 100,000 ครั้ง
อุปกรณ์เสริม แบตเตอรี่กริป
กล้อง EOS 6D สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่กริป BG-E13 ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความกระชับถนัดมือในการถ่ายภาพทั้งในแนวตั้งและแนวนอน พร้อมช่วยให้การถ่ายภาพได้มากยิ่งขึ้น ด้วยช่องใส่แบตเตอรี่ LP-E6 ถึง 2 ก้อน หรือสามารถเปลี่ยนมาใช้งานแบตเตอรี่แบบ AA 6 ก้อนได้อีกด้วย
โหลดคุณสมบัติและการทำงานของ EOS Remote App เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง EOS 6D ได้ที่นี่ คลิก
( http://www.canon.co.th/eosremote )
โหลดดูภาพตัวอย่าง และภาพยนตร์ตัวอย่างจากกล้อง EOS 6D ได้ที่นี่ คลิก
( http://web.canon.jp/imaging/eosd/samples/eos6d )
ข้อมูลจำเพาะเบื้องต้น EOS 6D
• เซ็นเซอร์ฟูลเฟรม CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล พร้อมชิปประมวลผล DIGIC 5+
• โฟกัสรวดเร็ว แม่นยำด้วยจุดออโต้โฟกัสอัตโนมัติมากถึง 11 จุด
• ใหม่! ระบบโฟกัสสามารถทำงานได้ถึง -3EV ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใหม่! WiFi ในตัวกล้อง ควบคุมและสั่งงานกล้อง EOS 6D
แบบไร้สายจากอุปกรณ์สมาร์ทโฟน และแทปเล็ตด้วยแอพพลิเคชั่น EOS Remote
บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
• ใหม่! ฟังก์ชั่น GPS ในตัวกล้อง บันทึกตำแหน่งที่กล้องถ่ายภาพได้ทันทีในไฟล์ภาพ
• ถ่ายภาพต่อเนื่องที่ความเร็ว 4.5 fps พร้อมโหมดการถ่ายภาพแบบเงียบ (Silent Shooting Mode)
• ช่วงความไวแสงกว้างถึง ISO 100 – 256000 (ขยายเพิ่มได้ถึง 50 - 102400)
• ครบครันด้วยฟังก์ชั่นสำหรับบันทึกภาพเคลื่อนไหวในระบบ Full HD รองรับการทำงานระดับมืออาชีพ
• ตัวกล้องแข็งแรงทนทาน ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอย พร้อมซีลกันละอองน้ำและฝุ่น
• สะดวกพกพาไปได้ทุกที่ด้วยตัวกล้องน้ำหนักเพียง 770 กรัม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น